รีวิว เกาะตาชัย สิมิลัน แค่ เสาร์-อาทิตย์ ก็เที่ยวได้ (ตอน 1)
12 พฤศจิกายน 2558 - รีวิว ท่องเที่ยว > เที่ยว พังงา > เกาะต่างๆ
สืบเนื่องมากจากเดือนที่แล้ว เพื่อนสนิทเค้า 2 คนที่อยู่ที่กรุงเทพฯโทรมาหาเค้า แล้วบอกว่าอยากจะมาเที่ยวภูเก็ต แต่ไม่อยากจะเที่ยวในเมืองภูเก็ต อยากออกไปเที่ยวเกาะ ดำน้ำดูปะการังมากกว่า โดยมีโจทย์ว่า ขอไปเที่ยวเกาะตาชัยหรือสิมิลันที่ใดก็ได้อย่างน้อย 1 ที่ เพราะมีเวลาว่างแค่วันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น เค้าเลยบอกไปว่า ถ้าจะให้เลือกไปเที่ยวเกาะตาชัยหรือสิมิลัน เค้าเลือกให้ไม่ถูก เพราะทั้ง 2 ที่มีความสนุกและความสวยงามที่แตกต่างกัน ถึงแม้จะอยู่ในอุทยานแห่งชาติเดียวกันก็ตาม ไหนๆเพื่อนก็จะมาทั้งทีแล้ว จะไปทำไมแค่เกาะเดียว จัดไปเลยทั้ง 2 เกาะ ทั้งเกาะตาชัยและสิมิลันไปเลย ถึงแม้จะมีเวลาแค่ เสาร์และอาทิตย์ก็ตาม
เริ่มต้นการเดินทางมาภูเก็ต (คืนวันศุกร์)
การเดินทางมาภูเก็ตนั้น สามารถมาได้ 3 วิธีคือ นั่งเครื่องบินมา นั่งรถบขส.มา และขับรถมาเอง ซึ่งเค้าเลือกที่จะให้เพื่อนเค้าบินมา เนื่องจากใช้เวลาและใช้พลังงานน้อยที่สุด แต่ก็แพงที่สุดด้วย เพราะตอนซื้อตั๋วไม่มีโปรโมชั่น ทำให้ได้ราคาไปกลับประมาณ 3,000 กว่าบาท แต่ถ้าใครคิดจะมาเที่ยวตามที่เค้ารีวิวนี้ ให้จองตั๋วล่วงหน้านานๆหน่อย หรือรอจังหวะดีๆ จะมีโปรโมชั่นของสายการบินออกมา บางครั้งอาจจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับแค่ 1,000 กว่าบาทเท่านั้นเอง
เค้าให้เพื่อนเดินทางมาวันศุกร์ ขึ้นบินรอบประมาณทุ่มครึ่ง จะมาถึงที่ภูเก็ตประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง แต่ด้วยความชำนาญเป็นพิเศษของเพื่อนเค้า เลยตกเครื่องไปคนนึง เพราะรถติดบนทางด่วน เห็นบอกว่าออกมาตั้งแต่ 4 โมงครึ่ง แต่ไปไม่ทันเครื่องออก ไปถึงดอนเมืองก็ 2 ทุ่มกว่าแล้ว สุดท้ายเลยต้องเลื่อนมาบินตอน 3 ทุ่มกว่า ถึงภูเก็ต 4 ทุ่มกว่า ทำให้เค้าและเพื่อนอีกคนนั่งรอกันยาวเลย
เมื่อเพื่อนคนที่ตกเครื่องเดินทางมาถึง ซึ่งเวลาตอนนั้นก็ประมาณ 4 ทุ่มกว่าเกือบ 5 ทุ่มแล้ว เราทั้ง 3 ก็ออกเดินทางไปที่ เขาหลักโดยทันที เพราะคืนนี้เค้าจะไปนอนพักที่เขาหลัก การที่เราเลือกไปพักที่เขาหลัก เพราะเราไม่อยากตื่นเช้ามาก ถ้าเรานอนที่ภูเก็ต วันรุ่งขึ้นเราจะต้องตื่นประมาณตี 5 รถจะมารับเราประมาณ 6 โมงครึ่งถึง 7 โมงเช้า แต่ถ้าเราไปพักที่เขาหลัก เราสามารถตอนประมาณ 7 โมงครึ่งได้ โดยเรือนำเที่ยวจะออกจากท่าเรือประมาณ 9 โมงเช้า
เราเดินทางใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เราก็มาถึงที่พักที่เขาหลัก ระยะทางจากสนามบินภูเก็ต ถึง ที่พักที่เขาหลัก ประมาณ 90 ก.ม. ซึ่งก็ไม่ได้ไกลมาก เพราะขับรถกลางคืนแทบจะไม่มีรถเลย เมื่อเข้าห้องพัก ทุกคนก็อาบน้ำแล้วนอนทันที เพราะต้องเตรียมพลังงานไว้สำหรับทริปในวันพรุ่งนี้
ในการจองห้องพักที่เขาหลัก เค้าจองเฉพาะห้องพักอย่างเดียว ไม่เอาอาหารเช้า เพราะว่าเราจะไปกินกันที่ท่าเรือ โดยที่ท่าเรือก็จะมีพวกชา กาแฟ ขนมเอาไว้คอยให้บริการอยู่แล้ว อีกอย่างมื้อเช้าก็ไม่ควรกินเข้าไปเยอะ เพราะเราจะต้องเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ท ถ้ากินเข้าไปเยอะ เดียวจะไม่งามระหว่างเดินทาง
หนูน้อยหมวกแดงตะลุยเกาะตาชัย (วันเสาร์)
เริ่มด้วยการตื่นนอนประมาณ 7 โมงเช้า จากนั้นก็อาบน้ำเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แว่นตากันแดด ครีมกันแดด กล้องถ่ายรูป และเงินอีกนิดหน่อย เพื่อเอาไว้ทิปน้องไกด์ที่มาคอยให้บริการ ถ้าบริการดีนะ ถ้าไม่ดีทิปเป็นศูนย์ 555 เอาไปแค่นี้แหละ พยายามเอาของไปให้น้อยที่สุด จะได้สะดวกในการขึ้นลงที่เกาะ จากนั้นประมาณ 8 โมงก็ออกจากที่พักเดินทางไปยังท่าเรือ โดยใช้เวลาไม่เกิน 20 นาทีก็ถึงท่าเรือแล้ว ก็อย่างที่บอก ที่ท่าเรือมีอาหารเช้าเอาไว้คอยให้บริการ พวกเราก็จัดไปตามระเบียบ จากนั้นก็เดินไปเช่าตีนกบ ซึ่งเค้าคิดราคาแค่ 100 บาทเท่านั้น ถามว่าจำเป็นต้องเช่าไหม โดยปกติแล้วไม่จำเป็นต้องใช้หรอก แต่ครั้งนี้เค้าเอากล้องลงไปถ่ายใต้น้ำด้วย เลยใส่เอาไว้เวลาว่ายไปมาจะได้ไม่เหนื่อยมาก
ที่บริษัทเรือนี้ สิ่งที่เค้าชอบอย่างหนึ่งคือ เค้าเล่นทอดปาท๋องโก๋กันที่หน้าท่าเรือเลย จะอินดี้ไปถึงไหน แต่เค้าชอบนะ เพราะจะได้กินปาท๋องโก๋ที่ทอดใหม่ๆ ไม่เหมือนบางท่าเรือ พอไปถึงปาท๋องโก๋ก็เหี่ยวหมดแล้ว เค้าดูเป็นคนเห็นแก่กินมากไปไหมเนี้ย 555 เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ และรอลูกค้าท่านอื่นๆจนครบ ทางน้องไกด์ที่จะเป็นคนนำเที่ยวเรา ก็จะอธิบายว่าวันนี้เราจะไปที่เกาะตาชัย โดยจะตรงไปที่เกาะตาชัยก่อน เพื่อไปดูวิวพ้อยและไปสำรวจธรรมชาติ ตามหาปูไก่ จากนั้นก็ทานข้าวเที่ยง หลังจากนั้นก็เดินทางออกจากเกาะตาชัยเพื่อไปดำน้ำ 2 จุดถึงจะกลับมายังที่ท่าเรือ
และแล้วเมื่อทุกอย่างพร้อม เราก็มาเริ่มเดินทางกัน โดยพวกเค้ายึดท้ายเรืออีกตามเคย เพราะกระแทกน้อยที่สุด และวิวก็สวยน้อยที่สุดด้วย ถ้าเพื่อนๆคนไหนชอบดูวิว แนะนำให้นั่งที่หัวเรือเลย เพราะวิวจะสวยมาก แต่อาจจะร้อนสักนิด อย่าลืมทาครีมกันแดดเอาไว้ด้วยนะ
เมื่อเราเดินทางมาถึงที่เกาะตาชัยแล้ว ทางน้องไกด์ก็จะให้เรานั่งพักผ่อนประมาณ 5 นาทีจากนั้นก็น้องเค้าจะนำเราไปยังวิวพ้อย ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที ระยะทางน่าจะประมาณ 1 ก.ม. ซึ่งทางที่ไปจุดวิวพ้อยไม่ได้ชันมาก แต่เค้ารู้สึกเหนื่อยมาก คงเพราะเป็นการเดินขึ้นเขา แต่เมื่อไปถึงก็ถือว่าคุ้มค่าเอามากๆ เพราะสวยจริงๆ และคนก็เยอะจริงๆ เมื่อเราใช้เวลาอยู่ที่วิวพ้อยประมาณ 30 นาทีเพื่อนั่งพักเหนื่อย และถ่ายรูปจนพอใจ ก็ถึงเวลาที่เราจะลงไปเพื่อทานข้าวเที่ยงกันสักที
ข้าวเที่ยงที่ทางเรือจัดไว้ให้เป็นข้าวกล่อง และเป็นอย่างนี้ทุกบริษัทเรือที่นำเที่ยวเกาะตาชัย เพราะเป็นคำสั่งมาจากทางอุทยานฯ เมื่อทานข้าวเรียบร้อย เวลาประมาณเที่ยงครึ่ง น้องไกด์ก็จะเรียกทุกคนให้มารวมกัน เพื่อที่จะพาไปเดินสำรวจธรรมชาติตามหาดูปูไก่ ซึ่งการเดินสำรวจธรรมชาตินี้ ไม่เหนื่อยเหมือนเดินขึ้นวิวพ้อย เพราะไม่ได้เดินขึ้นเขา ทางที่ให้เดินก็เป็นดินแข็งๆ ทำให้เดินไปเรื่อยๆ สบายๆ
เมื่อเดินสำรวจเรียบร้อยแล้ว น้องไกด์ก็ให้เวลาเราอีกประมาณครึ่งชั่วโมงในการพักผ่อนบริเวณชายหาด ซึ่งวันที่ไปคนไม่เยอะมาก เพราะเพิ่งเปิดฤดูกาลท่องเที่ยว คนยังน้อย ทำให้ไม่รู้สึกแออัดมากจนเกินไป ส่วนเพื่อนเค้า 2 คนก็ไม่ทำอะไรนอกจากนั้นดูสาวๆใส่ชุดบิกินนี่ถ่ายรูปบนชายหาด ส่วนเค้าเป็นคนรักครอบครัว เลยนั่งหลบแดดอยู่เฉยๆ 555
เวลาที่เราลงไปที่เกาะ ให้เพื่อนๆเอากล้องหรือมือถือลงไปด้วยนะ ส่วนหน้ากากดำน้ำเอาไว้ที่เรือก็ได้ เพื่อนเค้าคนนึง กลัวมือถือจะเปียก เอามือถือทิ้งไว้บนเรือ แต่ดันเอาหน้ากากดำน้ำลงมาด้วย คงคิดว่าจะดำน้ำดูปาการังหน้าหาด บอกได้เลยว่า หน้าหาดไม่ค่อยมีอะไรให้ดู ทางที่ดีเอามือถือหรือกล้องลงมาจะดีกว่า ไม่งั้นต้องคอยมายืมมือถือเพื่อนถ่ายรูปอีก ไม่รู้จะพูดว่าไง สิ่งที่ควรเอามาไม่เอามา เหนื่อยใจกับพวกมัน
เมื่อถึงเวลาที่น้องไกด์นัดเอาไว้ พวกเราก็เดินไปที่เรือเพื่อขึ้นเรือ และเดินทางเพื่อไปดำน้ำดูปาการัง ใช้เวลาเดินทางจากเกาะตาชัยไปที่จุดดำน้ำประมาณ 10 นาที ทั้ง 2 จุดดำน้ำไม่ค่อยแตกต่างกัน เพราะอยู่ไม่ไกลกัน สำหรับเพื่อนๆคนไหน อยากรู้ว่าจุดดำน้ำที่เกาะตาชัยสวยแค่ไหน เค้าได้ถ่าย clip มาให้เพื่อนๆได้ดูตามนี้นะ
เมื่อดูน้ำครบทั้ง 2 จุด ก็เดินทางกลับไปยังท่าเรือ ถึงที่ท่าเรือประมาณ 4 โมงครึ่ง และที่ท่าเรือก็มีชา กาแฟ และอาหารเอาไว้คอยให้บริการ แต่ที่ชอบที่สุดก็คือ มะพร้าวน้ำหอม ซึ่งทางท่าเรือก็ได้เตรียมเอาไว้ให้ด้วย มันเป็นอะไรที่ฟินเอามากๆ เพราะเมื่อเราเหนื่อยจากการเดินทางแล้วได้น้ำมะพร้าวชื่นใจสักลูก มันเป็นอะไรที่ฟินเว่อร์
เมื่อทานเรียบร้อยแล้วก็เดินทางกลับที่พัก เมื่อถึงที่พักก็รีบอาบน้ำ นั่งๆนอนๆ พอเวลาประมาณ 1 ทุ่มก็คุยกันว่าออกไปหาอะไรกินกัน เลยออกไปขับรถวนไปวนมา ร้านค้าส่วนใหญ่ออกแนวฝรั่ง ถึงไม่เหมาะกับพวกเรา 3 คนที่ออกแนวละมุด เลยสรุปกันว่าหาน้ำและขนมกลับไปกินกันที่โรงแรมดีกว่า และแล้วก็จบทริปในวันแรกกับการตะลุยเกาะตาชัย